แทบเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลยก็ว่าได้ ว่า Apple จะเปิดตัว iPhone SE 2022 สเปครุ่นใหม่นี้ ติดกันโดยใช้เวลาห่างเพียงแค่ 2 ปี เท่านั้น ซึ่งถูกเปิดตัวในงาน Apple Event แรก ของปี 2022 ในวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมานี้เอง และคงมีหลายคน ที่อาจจะอยากจับจองเป็นเจ้าของ iPhone รุ่นนี้ อยู่แน่แท้
วันนี้ GagangTech จะมาพาวิเคราะห์ความคุ้มค่าของ iPhone SE 2022 สเปครุ่นใหม่นี้ ว่ามันคุ้มค่าพอมั้ย ที่จะให้เราเสียเงินประมาณ 15,xxx เพื่อที่จะซื้อมัน!

iPhone SE 2022 สเปคใส้ในต่างจากรุ่นเก่าอย่างไร?
ก่อนที่เราจะพูดถึงหัวข้อไหนๆ สิ่งที่ต้องเน้นยำ คือ iPhone SE 2022 สเปคใส้ในได้ถูกอัพเกรดมาจากรุ่นเก่าอย่างไรบ้างก่อนดีกว่า
CPU : Apple A15 Bionic
iPhone SE 2022 ได้ใช้สเปค CPU รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง A15 Bionic ซึ่งเป็น CPU รุ่นเดียวกันกับที่ใช้ใน iPhone 13 และ iPhone 13 Pro เลยทีเดียว
แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เหมือนกรณี iPhone SE รุ่นที่แล้ว ที่ใช้ CPU Apple A13 ของ iPhone 11 และ 11 Pro นั่นเอง ซึ่งตรงนี้ มองข้อดีได้หลายอย่าง นั่นคือ
- เราจะได้ซื้อ iPhone ในราคา หมื่นกลางๆ ที่มีสเปคหน่วยประมวลผล เท่ากันกับ iPhone รุ่นล่าสุด
- เราจะได้ซื้อ Smartphone ที่สามารถเล่นเกมใดๆ ในโลกนี้ก็ได้ โดยไม่มีอาการสะดุด ในราคาเพียง หมื่นกลางๆ
แต่นั่นก็เป็นเพียงข้อดี ที่ iPhone SE รุ่นก่อนทำไว้เช่นเดียวกัน ซึ่งต้องบอกเลยว่า สำหรับคนที่คาดหวังมากกว่านั้น ก็คงจะคาดหวังจะเห็นอะไรมากกว่านี้ เพราะในด้านความแรงของ CPU เอง A13 ก็ยังถือว่าใช้งานได้ดี
และจากผลเทสคะแนน Benchmarks A15 จะแรงกว่าอยู่ราวๆ 30% รวมถึงประสบการณ์ใช้งานจริง A15 เองก็ไม่ได้แรงแบบก้าวกระโดดมากกว่า A13 แบบเห็นได้ชัดขนาดนั้น ทั้งๆที่ A15 กับ A13 มีอายุห่างกันราวๆ 2 ปี เลยทีเดียว

RAM : 3GB เท่ากับ iPhone SE รุ่นก่อนหน้า
ตามข่าวลือ มีข่าวว่า iPhone SE 2022 สเปคแรมจะมาเท่ากันกับ iPhone 12 แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อเปิดตัว iPhone SE 2022 สเปคแรมไม่ได้อัพมาให้ แม้แต่ GB เดียว ซึ่งยังคง 3GB เท่าเดิม
ต้องบอกตรงนี้เลยว่าแม้ว่าจะมีสเปคหน่วยประมวลผลตัวเดียวกันกับ iPhone 13 (Ram 6GB) แต่สเปคแรมนั้นห่างกัน ถึงครึ่งหนึ่ง iPhone SE2022 (Ram 3GB) ซึ่งผลเสียมหาศาลที่คุณจะเจอในปี 2022 นั่นก็คือ
- ไม่สามารถทำงานด้านมัลติทาสได้ดีไปกว่า iPhone 12 แม้ว่า CPU จะแรงกว่า iPhone 12 ก็ตาม เช่น การกำลังอัพโหลด รูปภาพลง Google Drive พร้อมกับเล่นเ Facebook ไปด้วย อาจจะทำให้ ภาพที่อัพโหลดอยู่ไม่สำเร็จก็ได้
- ในการเล่นเกมบางเกม อาจจะหนืด หน่วงกว่า iPhone 12 (Ram 4GB) และ iPhone 13 (Ram 6GB) หากมีการทำงานเบื้องหลังร่วมด้วย เช่น เล่นเกมอยู่แล้วสตรีมเกมด้วย

เสปคความจุ (Storage) และ GPU
นอกจากสองข้อหลักใหญ่ๆที่พูดถึงไปแล้ว เรื่องอื่นๆ แอดมองว่ายังไม่เป็นปัญหา เช่น เรื่องของความจุ และความแรงของ GPU ก็ถือว่าเพียงพอ
ซึ่งรุ่นนี้มีให้เลือกที่ 64GB , 128GB และ 256GB ซึ่งแน่นอนว่า ในปีนี้ สิ่งที่ไม่ควรทำคือ การซื้อ มือถือความจุ 64GB เพราะมันไม่พอในการใช้งานระยะยาวแน่ๆ และหากคุณต้องการความจุ 128GB ขึ้นไปจะต้องเพิ่มเงินอีก 2000 บาท ซึ่งจะอยู่ที่ 17,900 บาทนั่นเอง
อัพเกรดการเชื่อมต่อแบบ 5G แต่อาจจะยังมีปัญหาแบตเตอรี่อยู่ดั่งเดิม

ไม่เคยมั่นใจได้เลยว่า คนที่ซื้อ iPhone SE 2022 สเปคประหยัดนี้ เพื่อมาใช้อินเทอร์เน็ต 5G โปรตัวแพงๆ เดือนละ พันสองพัน ซึ่งมันเป็นความไม่ Make sense เลยทีเดียว
เพราะแน่นอนว่าการอัพเกรดเทคโนโลยี 5G มาใน iPhone SE 2022 สเปคนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องพูดกันตามตรงว่า
- หากคุณเปิดใช้งาน 5G ใน iPhone SE 2022 (ซึ่งตอนนี้ยังไม่ทราบสเปคแบตเตอรี่ที่แท้จริง ซึ่งไม่มากไปกว่า iPhone 13 อย่างแน่นอน) จะต้องรับได้กับการถูกกินพลังงานมหาศาล ซึ่งคุณจะพบปัญหาแบตไหล เหมือนใน iPhone 12 รุ่น Mini
- แม้แต่ตัว iPhone SE 2020 เองก็พบกับปัญหาแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ ในการใช้เทคโนโลยี 4G เดิมอยู่แล้ว ซึ่งคุณรับได้หรือไม่ กับเทคโนโลยี 5G ที่กินแบตเตอรี่มากกว่า
- หากคุณต้องการใช้ 5G อย่างเต็มสปีดที่สุด คุณต้องรับได้กับราคาโปรโมชั่น 5G ในประเทศไทยตอนนี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่ถูก และหากคุณซื้อ มือถือ 5G มาเพื่อเปิดใช้งานกับโปรโมชั่น Unlimited หลักร้อย ในความเร็ว 10Mbps ยอดนิยม ต้องบอกเลยว่า คุณคิดผิด
เพราะความเร็วที่ถูกจำกัดเพียงแค่ 10Mbps นั้นยังเร็วที่สุดของความเร็ว 4G ที่แท้จริงเลย ดังนั้น การเปิดใช้งาน 5G ในโปร Unlimited 10Mbps ที่ยอดนิยมนี้ ไม่ช่วยให้เร็วขึ้นแต่อย่างใด แถมคุณจะเสียแบตเตอรี่เพิ่มโดยใช่เหตุ
อัพเกรดสเปคกล้องแบบ.. เล็กๆน้อยๆ จริงๆ
iPhone SE 2022 สเปคกล้องมีการอัพเกรดสเปคกล้องมาอย่างแน่นอน แต่ต้องบอกเลยว่า มันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับคนที่คาดหวังเรื่องการถ่ายรูปล่ะก็ ต้องบอกเลยว่าอาจจะผิดหวัง
เพราะ เสปคกล้องหลัง (Rea Camera) มีความละเอียดเท่าเดิมคือ 12 Mega Pixel รูรับแสง 1.8 สามารถ Zoom Digital ได้ 5 เท่า ที่เพิ่มเติมมามีเพียง เทคโนโลยี Deep Fusion และ ลูกเล่นรูปแบบการถ่ายที่มากขึ้น
แต่ฟังก์ชั่นใหม่อย่าง Cinematic Mode สำหรับถ่าย วีดีโอแบบมือโปร ใน iPhone 13 ยังไม่มีมาให้ หรือแม้แต่ สิ่งที่คาดหวังว่าจะมีอย่าง Night Mode ก็ยังไม่มีมาให้
อย่างไรก็ตาม การปรับแต่งด้วยซอฟแวร์ของ iPhone SE 2022 ก็ทำให้สามารถถ่ายภาพในที่มืดได้ดีกว่า iPhone SE รุ่นก่อนได้พอสมควร
กล้องหน้าและวีดีโอ (Front Camera & Video)
สเปคกล้องหน้านั้นคงเดิมที่ 7 MP ค่า f2.2 และ การถ่ายวีดีโอสามารถทำได้ดีขึ้นด้วย เทคโนโลยี Deep Fusion ที่มีใน iPhone 13 นั้นทำให้วีดีโอคมชัด สวยงามขึ้น แต่เพราะมีเลนส์ตัวเดียว และไม่มี Cinematic Mode จึงเรียกได้ว่า แค่พอใช้ได้เท่านั้น

ปรับสีบอดี้ใหม่ แต่ รูปทรงเดิม ปุ่ม Home เดิม จอเหมือนเดิม และไม่รองรับ MagSafe
สิ่งที่น่าเบื่อของ iPhone SE 2022 นั่นคือ การที่ไม่ขยับปรับเปลี่ยนใดๆเลย ซึ่งแน่นอนว่า มันเป็นเหตุผลทางการตลาดของ Apple ที่ต้องการระบาย บอดี้เก่าๆ ที่เป็นบอดี้แบบเดียวกันกับ iPhone 8
แต่ที่ ดีไซน์แบบนี้ดู Old Style ดูเก่าล้าสมัย ในตอนนี้ เพราะมันห้อมล้อมไปด้วย iPhone ดีไซน์ใหม่ iPad Air ดีไซน์ใหม่ที่ตัดปุ่ม Home และย้าย Touch ID ไปไว้ด้านบน iPhone ดีไซน์นี้ มันจึงดูเก่าแก่นั่นเอง
แน่นอนว่า ประสบการณ์การใช้งานของคุณนั้นจะยังคงเดิม การหยิบจับมือถือ ที่เบาหวิว และหน้าจอ 4.7 นิ้ว แบบไม่เต็มขอบ รวมถึงสแกนนิ้วและกดสลับแอปด้วยปุ่ม Home จะอยู่กับคุณไปอีกไม่ต่ำกว่า 3 ปี (ยกเว้นคุณเปลี่ยนทุกปี) ลองจินตนาการดูว่า ในปี 2025 คุณจะได้เห็น iPhone ดีไซน์แบบไหน
รวมถึงรูปแบบการชาร์จที่ชาร์จผ่าน พอร์ต Lightning และไม่มีการแถม Adaptor และหูฟัง เหมือน iPhone SE รุ่นก่อนแล้ว ถึงแม้ว่าจะรองรับการชาร์จไร้สายที่ 18W แต่ก็น่าแปลกที่ไม่รองรับ Magsafe ให้สามารถใช้ได้เหมือนกับ iPhone 13
โดยทั้งหมดทั้วมวลนี้ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ Apple ยังปลอบใจคุณด้วย การปรับเฉดสีใหม่ จาก White & Black เป็น Starlight & Midnight แบบเดียวกับ iPhone 13 ซึ่งต้องบอกเลยว่า ทั้งสองเฉดนี้สวยงามขึ้นพอสมควรเลย

สรุป
iPhone SE 20221 สเปคหน่วยประมวลผลถูกปรับปรุงขึ้นใหม่ แต่สเปคด้านอื่นๆ ต้องบอกเลยว่า มันเป็นเพียงแค่ Minor Change เล็กๆเท่านั้น ซึ่งหากคุณต้องการที่จะซื้อ iPhone SE อยู่แล้ว ก็ให้ซื้อตัวนี้ได้เลย เพราะมันมาพร้อมกับราคาเดิม ที่เริ่มต้นความจุ 64GB ที่ 15,900 บาท
หรือหากคุณต้องการ เพียงแค่สะสม รูปแบบดีไซน์เก่า ลองมอง iPhone SE รุ่นที่แล้ว ในราคาถูกกว่านี้ สเปคก็ยังคงใช้ได้ดี
แต่หากคุณต้องการ iPhone ที่ใช้งานเป็นหลัก มีงบประมาณไม่มาก และต้องการมือถือจอเล็กจับถนัดมือ ให้ลองมองทุกข้อที่แอดกล่าวไปว่ารับได้หรือไม่
และเปรียบเทียบกับ iPhone รุ่นอื่นๆ ที่ยังหาได้ในท้องตลาด เช่น iPhone 13 Mini , iPhone 12 , iPhone 12 Mini หรือแม้แต่ iPhone 11 ก็ยังคงน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
สามารถสั่งซื้อ iPhone SE 2022 ล่วงหน้าได้ที่ ร้าน Banana IT จะได้รับส่วนลดสูงสุดทันที 2,500 บาท พร้อมแลกซื้อ Adapter 20W ในราคา 190 บ่าท คลิกเลย
หากชอบบทความของเรา สามารถให้กำลังใจได้ด้วยการ
กดไลค์ GagangTech และติดตามช่อง Youtube GagangTech
– แล้วไว้เจอกันใหม่ ในบทความหน้า สวัสดีครับ –