ไขข้อข้องใจ PCIe 4.0 ต่างกับ PCIe 3.0 อย่างไร และควรอัพเกรดมาใช้ ดีหรือไม่

สามารถฟังบทความแทนการอ่านได้แล้วนะ! คลุมดำ ข้อความที่ต้องการฟัง เว็บไซต์ก็จะช่วยอ่านให้อัตโนมัติ! หากต้องการหยุดอ่านให้กดปุ่ม Stop และอย่าลืมกด Allow ก่อนด้วย!

เกริ่นก่อนจะไขข้อข้องใจ PCIe 4.0 ก็มาสักพักแล้ว ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ AMD ก่อนเลยนะครับที่เป็นผู้นำในด้านนำเทคโนโลยี PCIe 4.0 นี้มาให้เราได้ใช้กัน โดยไม่มีกั๊ก

เจ้า PCIe หรือ PCI-Express 4.0 นี้ ได้มีแผนพัฒนาอยู่แล้วใน ปี 2017 จากบริษัท PCI SIG จนมาถึงปี 2020 นี้ AMD ก็ทำให้พวกเราสามารถใช้ได้จริงๆ เป็นเรื่องน่าสนใจอย่างมากที่จะมีมาตราฐานใหม่มาแทนที่

แต่ทั้งนี้การจะปรับไปใช้อะไรใหม่ๆ ก็ต้องใช้เวลา เช่นกันกับสมัยที่ PCIe 3.0 ออกมาใหม่ๆ แล้วทุกคนยังติดยึดกับ PCIe 2.0 อยู่ เนื่องจากไม่จำเป็นขนาดนั้น เอาละ ว่ามาเยอะแล้วเดี๋ยวเดี๋ยวเรามาดูเรื่องของเสปคของ PCIe 4.0 กันก่อน และเพื่อความสะดวก เพื่อนๆสามารถกดเลือกหัวข้อที่จะอ่านได้ในสารบัญเลยนะ

ตอนนี้ GagangTech ได้อัพเดท PCIe 5.0 ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุด เรียบร้อยแล้ว สามารถเข้าไปรับชมลิงค์อัพเดทได้ที่ >> ไขข้อข้องใจ PCIe 5.0 ต่างกับ PCIe 4.0 และ PCIe 3.0 อย่างไร!!

สารบัญ

1. PCI Express 4.0 หรือ pcie 4.0 อัพเกรดสเปคจาก pcie 3.0 อย่างไรบ้าง?

PCIe 4

PCI Express 4.0 นั้นมาพร้อมกับ bandwidth ขนาดใหญ่ถึง 16GT/s ซึ่งมากกว่า PCIe 3.0 สองเท่า (8GT/s) bandwidth นั้นคืออะไร bandwidth (แบนด์วิท) คือความกว้างในการรับส่งข้อมูล ยิ่งมีความกว้างมากก็จะทำให้รับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้นมาก

 

เทียบง่ายๆ ก็คือ การอัพเกรดถนนนั่นเอง จากสุขุมวิทแคบๆ ให้เป็นสนามแข่งรถ ทำให้ข้อมูลซึ่งเปรียบเสมือนรถ สามารถกดสปีดวิ่งได้เร็วขึ้นถึงสองเท่า

 

ซึ่งอุปกรณ์ที่ต้องใช้ความเร็วของ การเชื่อมต่อแบบ PCI-Express ปริมาณมากก็คือการ์ดจอนั่นเอง และในยุคนี้ SSD แบบ M.2 NVMe เองก็ต้องการความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงเช่นกัน การอัพเกรด แบนด์วิทเป็นสองเท่า นั้นจะทำให้การ์ดจอและ SSD รุ่นใหม่ ที่รองรับ PCIe 4.0 นี้ สามารถทำความเร็วเพิ่มมากกว่าเดิม ราวๆ 2 เท่าตัวครับ 

 

 

2. PCI-e ทำงานอย่างไร? มีการนับเลนอย่างไร?

หลังจากได้ทราบกันไปแล้วนะครับ ว่า PCIe 4.0 ในด้านเสปคนั้นต่างกับ PCIe 3.0 ราวๆ 2 เท่า แต่การทำงานของ PCI-Express นั้นไม่ว่าจะเป็น รุ่นไหน ก็จะมีหลักการการทำงานที่คล้ายคลึงกัน คือการถ่ายโอนข้อมูลโดยจำกัดความเร็วผ่านจำนวนเลน ใน Slot PCI ที่เราเอาไว้เสียบการ์ดจอนั่นแหละ โดยอุปกรณ์ที่เราใช้เสียบใน Slot PCI-E ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการ์ดจอ แต่อาจจะมีอุปกรณ์อื่นๆ เช่น การ์ดเสียง (Sound Card) การ์ดแคปเจอร์ (Capture Card) การ์ดแลน (Lan Card) หรือ การ์ดจอตัวที่สองที่เชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยี NV-Link หรือ CrossFire

ทุกคนจะเห็นว่า Slot PCI-e ที่อยู่ในเมนบอร์ดนั้น มีมากมายเหลือเกิน จึงทำให้การรับส่งข้อมูลของการ์ดจอ จะถูกแบ่งแบนด์วิทกัน หรือ แบ่งเลนกันนั่นเอง โดยแอดจะแบ่งและแสดงความเร็วเปรียบเทียบกันระหว่าง PCIe 4.0 กับ 3.0 ให้ทราบด้วย

 

1. PCI-Express x16 นั้นจะมีจำนวนวิ่งทั้งหมด 16 เลน จะให้แบนด์วิทได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย สำหรับ PCI-e 3.0 x16 จะให้อัตราการถ่ายโอนข้อมูลอยู่ที่ 15.754 GB/s ส่วนเจ้า PCI-e 4.0×16 จะให้อัตราการถ่ายโอนข้อมูล อยู่ที่ 31.508 GB/s หรือราวๆ 2 เท่านั่นเอง

 

2. PCI-Express x8 สำหรับ PCI-e x8 นั้นจะให้ความเร็วเพียง ครึ่งเดียวของ PCIe x16 เพราะมีเลนน้อยกว่า ครึ่งนึง และจะเกิดขึ้นในกรณีที่เราเอาการ์ดจอ เสียบ Slot x8 หรือใส่การ์ดจอมากกว่า 1 ตัว ก็จะโดนหาร แบนด์วิท ให้เหลือ คนละครึ่ง วิธีการคิด ก็ให้เอาความเร็วของ PCIe x16 ในรุ่นที่เราต้องการจะคิด เอามาหาร 2 ก็แค่นั้นเองครับ

 

3. PCI-Express x4 สำหรับ PCI-Express x4 นั้นจะเป็น Slot ที่มีความพิเศษอยู่เพราะว่า SSD มาตราฐานการเชื่อมต่อใหม่ ที่ทุกคนอาจจะคุ้นหู นั่นคือ SSD แบบ M.2 PCI-e NVMe นั้นมีความเร็วที่สูงมาก และต้องการใช้จำนวนเลน ในการถ่ายโอนข้อมูล 4 เลนด้วยกัน

โดยการที่จะเชื่อมต่อ SSD กับ PCI นั้นต้องใช้เทคโนโลยี DMI Link เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อระหว่าง ชิปเซ็ทได้นั่นเอง และ SSD M.2 NVMe ปัจจุบัน นั้นรองรับการเชื่อมต่อแบบ DMI Link 3.0 ใน มาตราฐาน PCI-e 3.0 x4 ซึ่งมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 3.938 GB/s

ยกตัวอย่างถ้าเราซื้อ SSD Samsung 970 Evo ซึ่งมีความเร็วในการถ่ายโอนอยู่ที่ 3.7GB/s ก็หมายความว่า SSD ตัวนี้แรงมาก เพราะมีความเร็วที่เกือบจะใช้แบนด์วิทได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยของสเปค PCI-e 3.0 x4 แล้วล่ะครับ

 

PCIe 4

เพราะฉะนั้น การอัพเกรดความเร็วของ PCIe 4.0 จะอัพเกรดทุกคูณ 2 ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น x16 x8 x4 หรือแม้แต่ x1 นั่นเอง รวมถึงอัพเกรด เทคโนโลยี DMI Link 3.0 ให้เป็น DMI HyperLink 4.0

ทำให้การเชื่อมต่อ SSD แบบ M.2 NVMe มีแบนด์วิทมากขึ้น 2 เท่า จาก 3.938 GB/s เป็น 7.877 GB/s ซึ่งแบนด์วิทตรงนี้ ทำให้ SSD จากเดิมที่เร็วได้ไม่เกิน 3.938GB/s สามารถพัฒนาให้เร็วกว่าเดิมไปจนถึง 7.877 GB/s ซึ่งก็มีให้เห็นแล้วนั่นก็คือ Samsung 980 PRO รุ่นต่อจาก 970 นั่นเอง ซึ่งทำความเร็วได้สูงสุดถึง 7.0GB/s ใกล้เคียงกับแบนด์วิทเต็มขีดสุดของ PCI-e 4.0 เลยทีเดียว

นอกจากนี้ การอัพเกรด DMI Link เป็น 4.0 ไม่ได้มีผลดีต่อผู้ที่ต้องการใช้ SSD แบบ M.2 PCI-e NVMe 4.0 แบบใหม่นี้เท่านั้น สำหรับคนที่ใช้ SSD แบบ M.2 PCI-e NVMe แบบเก่าอยู่ ก็ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นด้วยนะครับ

โดยปกติแล้วถ้าสังเกตุให้ดี เมนบอร์ดขนาด ATX ส่วนมาก จะมี Slot M.2 มาให้จำนวน 2 สล๊อตด้วยกัน  ทำให้เราสามารถใส่ SSD ได้ทั้งหมด 2 ตัว แต่หารู้ไม่ว่า การที่เราใส่ SSD ไปเต็มทั้ง 2 สล๊อต SSD ทั้งสองตัว มันต้องแบ่งแบนด์วิทกันนะครับ

สมมุติว่าเราใส่ SSD 970 Evo ที่มีความเร็ว 3.7GB/s ไปใน Slot ที่รองรับ M.2 NVMe แปลว่า SSD 970 Evo ได้ใช้เลนจนครบทั้งหมด 4 เลนแล้ว (x4) หากใส่เพิ่มอีกหนึ่งตัว ที่มีความเร็วเท่ากัน  จะต้องหารกันกับ ตัวเดิม หมายความว่า จาก x4 จะเหลือคนละ x2 เท่านั้น (ความเร็วจะหายไป ครึ่งหนึ่ง คือสามารถวิ่งได้ ไม่เกิน 2.0GB/s)

แต่ PCi-e 4.0 ได้เพิ่มแบนด์วิทให้เป็น 2 เท่า หากเราใส่ SSD PCI-e 3.0 จำนวน 2 ตัว ลงในเมนบอร์ด PCI-e 4.0 ละก็ จะสามารถวิ่งได้เต็มความเร็ว PCI-e x4 3.0 ทั้งสองตัวเลยแหละ! 

เห้ยแม่งเจ๋งหวะ! พรุ่งนี้ไปซื้อเลยบอร์ด AMD

PCIe 4

ช้าก่อน! หลังจากอ่านแล้วหลายคนคงเห็นความสามารถของมัน แต่จากผลเทสของหลายๆสำนัก จะเห็นว่ามันเป็นเรื่องของทฤษฏีเท่านั้น โดยเฉพาะการ์ดจอ ซึ่งการ์ดจอเนี่ย โดยปกติแล้วมันกินเลน PCI-e ไปมากถึง 16 เลน ซึ่งความเร็วของ PCIe 3.0 x16 นั้นก็มากมายเหลือล้น ที่จะรองรับความเร็วของการ์ดจอตัวเก่งของเราได้แล้ว (และทราบหรือไม่ว่า ในโหมด x16 ยังเหลือให้การ์ดจอใส่ได้อีกเพียบ) อีกทั้ง การ์ดจอเราจะมีการแบ่งรุ่น แบ่งคลาส รุ่นเล็ก แรงน้อยกว่ารุ่นใหญ่ เพราะฉะนั้นหากท่านไม่ได้เล่นการ์ดจอที่ทำความเร็วได้มากกว่า แบนด์วิทของ PCIe 3.0 x16 แล้ว เจ้า PCIe 4.0 นี่ก็แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย..

ผู้ใช้ปกติเอง ก็ใส่ SSD กันแค่ 1 ตัว โดยเลือกความจุเยอะๆไปเลยทีเดียว คงจะมีสำหรับบางคนที่ต้องการใส่ 2 ตัวเท่านั้น เพราะฉะนั้นการอัพเกรดเป็น PCI-e 4.0 เพื่อใส่ SSD มากกว่า 1 ตัวก็ดูจะเป็นอะไรที่เฉพาะกลุ่มเกินไปอยู่ดีครับ และ SSD แบบ PCIe 4.0 ก็ราคาค่อนข้างสูงด้วยครับ

รวมไปถึงพวกการ์ดต่างๆ ที่สามารถย่อให้สล๊อตสั้นลงได้  เพราะ แค่ x1 ก็มีแบนด์วิทเหลือเฟือ (ความยาวสล๊อตขึ้นอยู่กับจำนวนเลน จำนวนเลนมาก ความยาวสล๊อตก็จะมาก เพราะพินทองแดงเยอะ) ตะตะ แต่ เราจะใส่การ์ดอะไรบ้างล่ะ นอกจากการ์ดเสียงซึ่งใส่ใน PCI-e 3.0 x1 ก็วิ่งได้เต็มที่อยู่แล้ว? ชิปแลนที่ติดตั้งมาในเมนบอร์ดระดับกลางๆก็เจ๋งแล้ว รวมไปถึง Nvme และอุปกรณ์อื่นๆในเมนบอร์ดจะวิ่งผ่าน PCIe 3.0 x4 ซึ่งก็มีจำนวนเลนมาให้เพียงพออยู่แล้ว 

 

 

ก็อย่างที่บอกไปครับ ก็จริงที่เรามีถนนที่ดีขึ้น เป็นสนามรถแข่ง F1 แต่ จะมีใครบ้างที่จะมี F1 มาวิ่งอ่ะครับ ในเมื่อ PCIe 3.0 x16 ที่เป็นถนนทางด่วนมอเตอร์เวย์ก็สามารถให้รถธรรมดาวิ่งทำความเร็วได้เต็มที่อยู่แล้ว (แต่โดนปรับ!!)

 

3. จำเป็นขนาดไหนที่ต้องอัพเกรดไปใช้ PCIe 4.0

จะไขข้อข้องใจให้กระจ่าง ในบทความนี้เลยนะครับ ยกตัวอย่าง

1. PCIe 4.0 ในโหมด x16 มี แบนด์วิทอยู่ที่ 31.508 GB/s ซึ่งแบนด์วิทตัวนี้ คือการรับส่งข้อมูลจาก CPU กับ GPU ไม่ได้หมายถึงการรับส่งข้อมูลใน Memory bandwidth ในการ์ดจอนะครับ เพราะฉะนั้นการรับส่งข้อมูลระหว่าง GPU และ CPU จะต้องถูกเทสในขณะที่เราใช้การ์ดจอ ซึ่งจากผลเทสอ้างอิงจากเว็บไซต์ Tech powerup พบว่า 5700XT ที่เป็น PCIe 4.0 นั้นเมื่อเทสแล้วได้เฟรมเรตที่ไม่ได้ต่างจาก PCIe 3.0 มากนัก (1-3%) สำหรับการ์ดจออย่าง RTX 3000 รุ่นล่าสุด แอดกำลังรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นทางการอยู่ เพื่อนำมาเพิ่มให้ในอนาคตนะครับ

PCIe 4

2. เพราะอะไร? เสปคแรงกว่าสองเท่าแต่ทำไมไม่ต่าง เพราะการจะรัดประสิทธิภาพให้สุดระหว่าง CPU และ GPU มีหลายปัจจัยร่วม รวมถึงซอฟแวร์เกม เอนจิ้นเกมที่ใช้พัฒนาด้วย หากต้องการทดสอบว่าการ์ดจอของท่านวิ่งเต็ม bandwidth pcie แล้วหรือยัง จะต้องทำการ PCI-E Speed ​​Test  ให้เห็นตัวเลขทางคณิตศาสตร์ หรือทำการเล่นเกมแล้วดูเฟรมเรตเปรียบเทียบกัน แต่เชื่อผมเถอะ การ์ดจอ ณ ปัจจุบันนี้ PCIe 2.0 x8 ยังเล่นได้เลยครับ เพราะฉะนั้น เมนบอร์ดที่ใช้ PCIe 3.0 ก็จะยังสามารถเสียบการ์ดจอ PCIe 4.0 เล่นได้อย่างสบายๆ คงต้องรออีก 2-3 Gen เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พวกเราก็จะถูกบีบให้ใช้ PCIe 4.0 กันทุกคน โดยที่ไม่ต้องรีบร้อนเสียเงินซื้อเมนบอร์ดราคาแพง เพราะฉะนั้น ทุกคนจงเล่นเกมอย่าไปซีเรียสเรื่องเฟรมเรตมาก ตราบใดที่เรายังเล่นเกมได้ลื่นๆอย่างสบายใจ เฟรมเรตเท่าไหร่ช่างหัวมัน

PCIe 4

3. เว้นแต่ว่า อยากลองของใหม่ SSD รุ่นใหม่ๆ ความเร็วแรงระดับ ที่เกินกว่า PCI-e 3.0 x4 จะรับไหว นั่นคือ ความเร็วที่มากกว่า 3.9 GB/s ซึ่งก็มีให้เห็นกันหลายรุ่นเช่น

>> SSD 980PRO PCIe 4.0 อ่านเขียน 7.0GB/s !!! <<

แต่ราคาก็ยังค่อนข้างสูง และถ้าใช้งานธรรมดาผมคิดว่า NVME ปัจจุบันก็ทำได้ยอดเยี่ยมแล้ว ก็ลองคิดดูว่าถ้ามีเงินเท่ากัน ซื้อ SSD PCIe 4.0 ได้ในความจุ 500 กับ ซื้อ SSD PCIe 3.0 ในความจุ 1TB เป็นผมผมเลือก 1TB ในยุค 2020 นี้ ผมยังต้องการความจุมาเก็บเกมเก็บงานมากกว่า ความเร็วที่ไม่ได้ช่วยให้เล่นเกมดีขึ้นแบบผิดหูผิดตาขนาดนั้น หากไม่ได้ทำงานเฉพาะทาง

 

– กลับสารบัญ –

สรุป!

สำหรับเมนบอร์ดตระกูล B450 และ x470 รวมถึง B350 X370 ด้วย ยังสามารถใช้ RTX3000 ซึ่งเป็นการ์ดจอ PCIe 4.0 ได้อย่างแน่นอน รวมไปถึงเจ็นล่าสุดอย่าง Z490 B460 ของทางฝั่งทิดอิน ก็ยังเป็น PCIe 3.0 อยู่เลยครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวล

SSD แบบ PCIe 4.0 นั้นมีมาให้เห็นหลายเจ้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Samsung , Corsair , Seagate ซึ่งหากต้องการลองของแรงจริงๆ ก็ต้องทำการอัพเกรดเมนบอร์ดเป็น PCIe 4.0 แน่นอน และ CPU ของคุณ จะต้องรองรับ PCIe 4.0 ด้วยนะครับ

รวม เมนบอร์ดและ CPU ที่สามารถใช้ PCIe 4.0 ได้เต็มประสิทธิภาพ

– AMD Ryzen 5000 Serise และเมนบอร์ด X570 B550

– Intel Core Gen 11 >> อ่าน เจาะลึก เมนบอร์ด Intel Core Gen 11

– Intel Core Gen 12 >> อ่าน เจาะลึก เมนบอร์ด Intel Gen 12

– ส่วนเมนบอร์ด Z490 บางรุ่นที่มี Option PCIe 4.0 มาด้วย เช่น Asrock Hyper M.2 เป็นต้น ก็สามารถใช้ SSD PCIe 4.0 ได้ (ในอนาคต) หากอัพเกรดเป็น CPU Core I Gen 11 ที่รองรับ PCIe 4.0 นะครับ

และแถมสำหรับใครที่ยังกังวลเรื่องของเมนบอร์ดที่เป็นชิปเซ็ทราคาถูกตลอดจนค่อนไปทางกลางๆ เช่น H310 หรือ A320 ว่าจะสามารถใส่ SSD Nvme ความเร็วสูง ได้มั้ย และใส่การ์ดจอ PCIe 4.0 วิ่งเต็มมั้ย อ่านบทความนี้จะช่วยคลายความกังวลได้ >> 

อย่าลืมกดไลค์และกดติดตาม ในเฟสบุคส์ >> GagangTech   และ Youtube  GagangTech จะได้ไม่พลาดข่าวสารและกิจกรรมดีๆ นะครับ 

 

— เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ต้องมีราคาที่จับต้องได้ —

 

Facebook Comments Box
This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.