บทความนี้สำหรับเหล่า Mechanical Keyboard Love เลยก็ว่าได้ ทุกคนคงทราบดีว่า Mechanical Keyboard นั้นสามารถ Custom (ปรับแต่ง) ได้แทบทุกองค์ประกอบเลยทีเดียว
หากเราซื้อ Mechanical Keyboard แล้วไม่ถูกใจลักษณะของ Keycap หรือฟิลลิ่งการกดของ Switch เราสามาถปรับแต่งได้ด้วยตนเองแบบง่ายๆเลย ซึ่งบทความนี้ จะมาสอนวิธีการ Custom Keycap และ ปรับแต่ง Switch ทั้งการ Hot Swap หรือ Non-Hot Swap ให้เหล่าผู้ใช้ Mechanical ได้ลองทำตามกันแบบง่ายๆด้วยตนเอง
ซึ่งหากใครที่ยังไม่มี Mechanical Keyboard ละก็ สามารถเลือกอ่านบทความเกี่ยวกับ การเลือกซื้อ Mechanical Keyboard ได้ในสารบัญด้านล่างได้เลย
เจาะลึก!
Mechanical Keyboard
The Series
Custom Keycap

สิ่งที่ง่ายที่สุดในการเริ่ม Custom Mechanical Keyboard ก็คือการ Custom Keycap นั่นเอง
การเปลี่ยน Keycap ที่เราไม่ชอบ ให้เป็น Keycap ที่ถูกใจเรานั้นวิธีการเปลี่ยนนั้นง่ายมาก แต่เราจะต้องเลือกดู Keycap ให้เหมาะสมกับคีย์บอร์ดของเราก่อน
อย่างแรกเราจะต้องเช็ค Layout ของคีย์ให้เป็นแบบ ANSI ซึ่งเป็นมาตราฐานของคีย์บอร์ดในประเทศไทย ซึ่งหากเราซื้อคีย์บอร์ดที่มี Layout อื่น (เช่น ญี่ปุ่น) เราก็ต้องซื้อ Keycap ที่ Layout เดียวกันด้วย
อย่างที่สอง เราจะต้องเลือก Keycap ที่ตรงตามมาตราฐาน Switch ของเรา ซึ่งที่ยอดนิยมคือ Cherry Switch ตรงที่สำหรับติดตั้ง จะเป็นลักษณะบากสี่เหลี่ยม ซึ่ง Keycap แบบ Cherry Switch นี้สามารถใช้งานได้กับ Switch รุ่นอื่นๆ ที่คล้ายๆกับ Cherry Switch ได้อีกด้วย
ซึ่งหากคีย์บอร์ดของเราเป็นลักษณะแบบ TKL ที่เป็น KeyCap แบบบางละก็ เราก็ต้องเลือก Cap แบบ Slim เพื่อความเข้ากันได้เช่นกัน
เช็ค วัสดุของ Keycap
อย่างสุดท้ายคือการ เลือกวัสดุของ Keycap เพราะนอกจากให้เสียงที่แคปกระทบกับ PCB ของคีย์บอร์ดที่แตกต่างกันแล้ว ยังรวมถึงวัสดุ คุณสมบัติ ความคงทนที่แตกต่างกันด้วย
1. คีย์แคปแบบ ABS
คีย์แคปแบบแรก คือคีย์แคปที่ใช้พลาสติกแบบ ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene) คีย์แคปแบบพลาสติก ABS รู้ๆกันอยู่ว่า ABS นั้นใช้ในอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลายมาก เนื่องจากเป็นพลาสติกเกรดถูก และใช้ในคีย์บอร์ดทั่วไปบางรุ่นด้วย ถึง ABS จะมาราคาถูก แต่ก็ดีกว่า แคปแบบยางมากๆ
แคปแบบ ABS เมื่อใช้ไปเรื่อยๆ อาจจะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า อาการผิวมันเงา มันวาวหรือถ้าเกรดต่ำกว่านี้อาจจะ ปริ้นสกรีน ตัวอักษรลงบนผิวของแคป และเมื่อใช้งานมากๆ อาจจะทำให้ ตัวอักษรที่สกรีนลอกและจางลงได้
แคปแบบดูได้ง่ายมาก แทบจะ 90% หากผู้ผลิตคีย์บอร์ดไม่ได้บอกอะไร ส่วนใหญ่จะเป็น ABS ทั้งนั้น แต่ถ้าหากเราไม่ชอบ ก็สามารถเปลี่ยนได้นะอยู่แล้ว
2. คีย์แคปแบบ PBT
คีย์แคปแบบสองคือ PBT จะใช้พลาสติกแบบ PBT (polybutylene terephthalate) ที่มีความหนักแน่น และดูทนทานมากกว่า ABS แบบเห็นได้ชัด โดยสีของ PBT จะมีความเรียบมากกว่า ABS ส่วนใหญ่ ผิวสัมผัสก็จะออกสากๆเล็กน้อย โดย PBT นั้นแตกต่างจาก ABS พอสมควร แต่หลักๆเลยคือ เสียงแคปกระทบกัน ของ PBT จะมีเสียงอีกแบบซึ่งแตกต่างจาก ABS แบบถ้าฟังดีๆ จะได้รับฟังถึงความต่างเลยทีเดียว
3. คีย์แคปแบบ Double Shot
คีย์แคปแบบ Double Shot คือการผลิตคีย์แคปสองชั้น โดยเป็นการเลเซอร์ตัวอักษรลงบนเนื้อพลาสติกเลย โดยมีทั้ง ABS Double Shoot และ PBT Double Shot ทำให้ปุ่มสามารถมีไฟลอดขึ้นมาได้ โดยการทำ Double Shot นั้นจะทำให้แคปมีราคาสูงขึ้น อีกทั้ง ABS ใช้ทำก็มีหลายเกรด เกรดที่สูง ทน และแพงพอๆกับ PBT ก็มีเช่นกัน โดยการทำ Double Shot จะทำให้ไฟ RGB สวยงามมาก และยอดนิยมในคีย์บอร์ดแมคคานิคอล เกมเมอร์มากๆ
ดังนั้นอย่าลืมเลือกวัสดุ Keycap ให้ดีก่อนที่จะซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้คีย์บอร์ดที่มีไฟ RGB หากซื้อ Keycap ที่ไม่ใช่ Double Shot ก็จะทำให้ไฟไม่ลอดผ่านตัวอักษรได้
วิธี Custom Keycap

1. ใช้อุปกรณ์ดึงคีย์แคป ดึงคีย์แคปออกจากคีย์บอร์ด

2. เมื่อดึงมาแล้วจะพบกับ Switch แบบนี้

3. สามารถใส่ Custom Keycap ของเราลงไปแทนได้
Custom Switch
การ Custom Switch นั้น มีทั้งทำได้ง่าย และทำได้ไม่ง่ายเท่าไหร่นัก ซึ่งขึ้นอยู่กับแผงวงจรคีย์บอร์ดที่เราเลือกซื้อมา หากเราซื้อคีย์บอร์ดที่เป็นสำเร็จรูปมาเลย (แบรนด์ต่างๆ) ก็จะมีการเขียนสเปคไว้ที่หน้ากล่อง หรืออาจจะไม่มีก็ได้ เกี่ยวกับ การ Hot Swap Switch ว่าคีย์บอร์ดรุ่นนี้สามารถทำได้หรือไม่
การ Hot Swap คือ การที่เราสามารถดึงเปลี่ยน Switch ได้ด้วยตนเอง โดยที่เราไม่ต้องทำการ เชื่อมบัดกรี Switch จากแผงวงจร ซึ่งการ Hot Swap นี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการ Custom Switch ของเราได้อย่างมาก
ซึ่งแผงวงจรที่รองรับ Hot Swap จะมีราคาสูงกว่าปกติหน่อย และหากแผงวงจรคีย์บอร์ด ไม่รองรับฟังก์ชั่นการ Hot Swap แล้วล่ะก็ เราก็จะต้องคอยแกะคีย์บอร์ดเพื่อนำ แผงวงจรไปบัดกรี Switch ให้ติดกับ ตะกั่ว ซึ่งหากเราไม่มีทักษะทางด้านฝีมือช่างมากพอ จะทำให้เรามีสิทธิ์ที่จะทำให้แผงวงจรเสียหาย และสุดท้ายก็ทำให้คีย์บอร์ดพังนั่นเอง
เลือก Switch สำหรับ Custom
การเลือก Switch สำหรับ Custom ไม่จำเป็นว่าต้องเป็น Switch แบบเดียว สีเดียวกันทั้งหมด จะเป็นผสมแบรนด์ ผสมสีอย่างไรก็ได้ตามใจนึก แต่อย่างเดียวที่เราต้องรู้ คือต้องดูแผงวงจรของเรา ว่ารองรับ Switch แบบ 3 Pin หรือ 5 Pin ซึ่งเราต้องเลือก Switch ให้ตรงกับ แผงวงจรของเรา ถึงจะสามารถติดตั้งลงบนแผงวงจรได้
ส่วนมาก Switch ที่ใช้มาตราฐานเดียวกันกับ Cherry Switch จะสามารถใช้ได้ทั้ง Switch และ Keycap แบบเดียวกัน บนแผงวงจรได้ แต่ถ้าหาก Switch ที่ใช้บนแผงวงจร เป็น Switch ที่ผู้ผลิตสร้างขึ้นเองเช่น G Romer Switch หรือ ROG RX Switch ล่ะก็ ก็ต้องดู Pin ให้ดี ถ้าไม่ใช่แบบเดียวกับ Cherry Switch อาจจะหมดสิทธิ์ในการปรับแต่งได้ตามใจเราเลยทีเดียว
วิธีการ Hot Swap Switch

1. เตรียมอุปกรณ์ดึง Switch ที่มีแถมมาให้ในกล่อง ส่วนมากจะแถมในรุ่นที่รองรับการ Hot Swap

2. เสียบลงไประหว่างร่องของ Switch จากนั้นออกแรงดึงเล็กน้อย ต้องทำองศาของมือให้ตรงด้วย

3. เมื่อดึงออกมาจะพบ Socket สำหรับติดตั้ง Switch ใหม่ลงแผงวงจร

4. บางที ที่ดึง Switch ที่แถมมาอาจจะไม่ถนัด เราสามารถใช้ ไขควงปากแหลม สองอันเพื่องัดขึ้นมาได้

5. หน้าตาคีย์บอร์ดที่ Hot Swap ได้จะมีประมาณนี้

6. เตรียม Switch ใหม่ที่เป็นแบบ Cherry Switch 3 Pin ซึ่งขา Pin จะต้องไม่หักหรืองอ

7. กด Switch ลงไปบนแผงวงจรแบบระมัดระวัง ให้แน่นๆ

8. Custom Switch แบบ Hot Swap ได้ตามใจชอบ
โดย Switch ที่แอดถอดออกคือ Gateron Brown Switch และที่ติดตั้งใหม่จะเป็น Cherry Switch หลากหลายแบบเลยทีเดียว
- Cherry Blue Switch – ใช้สำหรับปุ่ม Num Pad และ Function เป็นหลัก
- Cherry Red Switch – ใช้หรับปุ่มที่ต้องการตอบสนองแบบเร็วๆ กดครั้งเดียวก็รู้ผล และต้องกดบ่อยๆ เช่น Shift , ALT , Ctrl หรือ Del เป็นต้น
- Cherry Brown Switch – ใช้เป็นปุ่มหลักในการพิมพ์งาน เพราะพิมพ์มันส์เหมือน Blue แต่เสียงเบาและนิ่มกว่า
- Cherry Speed Switch – ใช้สำหรับปุ่มที่ใช้เล่นเกมที่ต้องการกดค้างบ่อยๆ เช่น ปุ่ม WASD หรือ ปุ่มลูกศร เพื่อตอบสนองจังหวะสำคัญ
- Cherry Black Switch – ใช้สำหรับปุ่มที่เราไม่ต้องการกดพลาด เช่น Enter , Caps และ ปุ่ม Q E R ที่เป็นใช้ในการกดสกิลในเกมแนว MOBA ที่ไม่ต้องการกดสกิลลั่น
โดย Switch ที่แอด Custom นั้น เน้นให้ตรงต่อการใช้งานของแอดล้วนๆ ซึ่งนี่คือประโยชน์อย่างหนึ่งของ Mechanical Keyboard แบบ Hot Swap และให้ผลที่น่าพึงพอใจมาก
หากคีย์บอร์ดเราไม่มี HOT Swap ล่ะ?
หาก คีย์บอร์ดของเราไม่มี Hot Swap ล่ะก็ ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างยุ่งยากเลยทีเดียว เพราะเราจะต้องแกะคีย์บอร์ดออกให้เหลือแต่แผงวงจรเพียวๆ โดยวิธีการแกะคีย์บอร์ดของแต่ละรุ่น ก็จะไม่เหมือนกัน
และเราจะต้องใช้เครื่องมือคือ หัวแรงค์ ตะกั่ว ที่ดูดตะกั่ว เพื่อดูดตะกั่วออก แล้วงัด Switch ออกมา ซึ่งกระบวนการตรงนี้หากไม่ชำนาญพอ จะทำให้แผงวงจรคีย์บอร์ดเสียหาย ส่งผลให้คีย์บอร์ดเอ๋อ หรือพังได้เลย เพราะฉะนั้น ทำอย่างระมัดระวังครับ

ซึ่งแอดได้ลงคลิปที่แอดลอง Custom Keyboard ที่ไม่รองรับ Hot Swap ด้วยวิธีการบัดกรีให้ในคลิป ด้านล่าง เพื่อนๆสามารถเข้าไปลองดูได้เลย และในคลิปยังสอนทำความสะอาดคีย์บอร์ดด้วยนะ
และก็จบไปแล้วสำหรับบทความนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะครับ หากใครสงสัยว่า คีย์บอร์ดที่แอดนำมา Custom Keycap และ Hot Swap Switch นี้เป็นรุ่นอะไร สามารถกดเข้าไปดูรีวิว ได้ใน บทความ บทที่ 5 ในสารบัญ นี้ได้เลย
คลิปการบัดกรี Custom Switch สำหรับ Keyboard ที่ Hot Swap ไม่ได้
อย่างไรก็ตามหากชอบบทความอย่าลืมติดตามเพจ GagangTech และช่อง Youtube GagangTech เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วย