และแล้ว Nvidia ก็ชิงเปิดตัว Geforce RTX3000 Series ในวันนี้ พร้อมกับอัดเสปคมาอย่างกระจุยกระจายกันเลยทีเดียว โดยใช้สถาปัตยกรรม Ampere มาพร้อมกับการอัพเกรด RT core และ Tensor Core โดยทาง Nvidia เคลมว่า การ์ดจอ ซีรีส์ 3000 ของตนนั้น เปิด Ray Tracing ได้แรงกว่ารุ่นแรกถึง 1.9 เท่าเลยทีเดียว พร้อมกับความแรงในระดับที่เล่นเกมระดับ 8K ได้สำหรับรุ่น RTX 3090 สำหรับการเปิดตัวครั้งนี้ มีรุ่นอะไรบ้าง แรงแค่ไหน เสปคเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย

Nvidia  เปิดตัวมาทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Nvidia Geforce RTX3090 , RTX3080 และ RTX3060 ด้วยเสปคอ้างอิงจากเว็บไซต์ Nvidia Geforce TH และราคาอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ นอกจากเสปคที่อัพเกรดเพิ่มขึ้นมากแล้ว >> ดูเสปค << ยังมีราคา(ที่เข้าไทย) ดูจะเป็นมิตรมากกว่าช่วง RTX2000 Series และมีความแรงที่ทิ้งช่วงห่างโข โดย 3090 นั้นเป็นการ์ดที่แรงที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อย ล้มยักษ์เก่าอย่าง RTX TITAN ลงทันที พร้อมกับ RTX3080 ที่ขึ้นแท่นการ์ดเล่นเกมตัวเรือธง เร็วที่สุดเช่นกัน และยังแถมท้ายด้วยน้องเล็กอย่าง RTX 3070 ที่ตบรุ่นพี่อย่าง RTX2080TI เรือธงของ Gen ที่แล้วลงด้วยราคาที่แทบจะหั่นเกินครึ่ง แต่ได้ความแรงที่มากกว่าราวๆ ถึง 35% Nvidia เรียกได้ว่าเล่นใหญ่จนเห็นเสปคแล้วต้องร้องปากค้างกันเลยทีเดียว 

วันนี้ทาง GagangMart จึงขอวิเคราะห์อนาคตของตลาดการ์ดจอเกมมิ่งไว้สำหรับประกอบการตัดสินใจของเกมเมอร์ทุกคน สำหรับท่านที่ไม่ว่าจะมีงบน้อยงบเยอะแค่ไหนก็ตาม ผมเชื่อว่าหลายๆคนจะซื้อการ์ดจอราคา หมื่นสองหมื่นต้องคิดแล้วคิดอีกบ้างแหละ เอาเป็นว่า เราจะซื้อมันมาทำอะไรดีกว่า แล้วที่ตั้งใจไว้มันจะตรงใจรึเปล่า มาลองดูประกอบการตัดสินใจครับ

 

สำหรับเรื่องความแรงยังคงตอบไม่ได้อย่างเต็มปาก เพราะเรายังไม่ได้ชิมผลเทสกันอย่างเป็นทางการ จากหลายๆสำนัก อีกอย่าง AMD ยังไม่ได้เปิดตัวการ์ดจอ Gen ใหม่ การคาดการณ์จึงยังไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัด เอาเป็นว่าแอดขอแบ่งคนเป็น 3 กลุ่มแล้วกัน คือ

1. สำหรับสายหมุน นี่คือช่วงเวลาทองรอช้อนของเก่า แน่นอนว่า RTX2000 จะราคาร่วงอย่างแน่นอน แต่คิดว่าถ้าไม่โดนปั่นราคาคงยังไม่ใช่เร็วๆนี้ เพราะกว่าจะได้วางขายจริงคงเป็นเดือนหน้า อีกอย่างการ์ด Non-Ref น่าจะมีราคาที่หัวรุนแรงโดยเฉพาะ ROG STRIX ของทาง Asus สายช้อนถ้าเจอราคาที่ถูกใจหรือราคาในใจแล้วสู้ไหวแนะนำว่าช้อนเลย ครับ แต่อย่าไปปั่นราคาตลาดมือสองมากนะ ปล่อยให้เป็นกลไกของตลาดเอาเองดีกว่าครับ

2. สำหรับสายเทพ ตัวแรง แนะนำว่าให้รอจัดเลย จัดตัวแรงอย่าง 3090 ใช้ยาวๆ คุ้มที่สุดครับ

3.สายปกติ ใช้จนคุ้ม เพราะตัวรองทั้งหลายอาจมีแนวโน้มว่าจะขยับเขยื้อน เช่นเดียวกับ RTX 2000 ที่มี Super โผล่มา เพราะ AMD ก็เล่นตลาดตัวรองค่อนข้างเก่ง ถ้าจะเล่นตัวรองๆ แล้วยังมีการ์ดจอใช้อยู่ ผมแนะนำให้รอช่วงที่ตลาดนิ่ง หรือรอจนกว่า AMD จะเปิดตัวการ์ดตัวใหม่และราคามา ท่านจะรอช้อน หรือจัดตัวใหม่ ก็จะมีตัวเลือกมากขึ้นครับ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องใช้งาน ก็จัดก่อนได้เลย ซื้อก่อนใช้ก่อนครับ

 

จริงๆ จะพูดว่ายุค Full HD หมดไปแล้วก็ยังไม่ถูกนะครับ Full HD ยังคงเป็นมาตราฐานสำหรับคอมพิวเตอร์อยู่ แต่ต้องเรียกว่าเป็นการเข้าสู่ยุคของจอ ที่มากกว่า Full HD อย่างเป็นทางการแล้วดีกว่าครับ ที่ผ่านมา จอ ความละเอียด 2K-4K ยังไม่จำเป็นมากนัก ด้วยเหตุผลที่การ์ดจอดันไม่ขึ้น หรือราคาที่แพงแสนแพง แต่นับตั้งแต่ LG ลงมาเล่นตลาดเกมมิ่งด้วยการเปิดตัว จอ 2K IPS ในระดับ 144Hz ด้วยราคาราวๆ หมื่นต้นๆ ทำให้ทุกคนเข้าถึงจอเกมมิ่งเทพๆ สีสันเที่ยงตรง เล่นเกมด้วย ทำงานด้วยได้ และมันก็ถึงเวลาต้องอัพเกรดการ์ดจอกันแล้ว เพื่อได้เสพภาพคมชัดระดับ 2K ขึ้นไปการ์ดจอแรงๆอย่าง RTX3000 ซีรีส์ถือว่าเหมาะสมที่จะอัพเกรดอย่างมาก ด้วยการเคลมจากทาง Nvdia เลยว่า 3090 สามารถดันได้สุดถึง 8K โดยไม่ต้องทำการ SLI หรือ NV-Link แต่อย่างใด รองมาคือ 3080 ที่เสปคจัดเต็มสำหรับจอ 4K และแม้แต่น้องเล็กสุดอย่าง 3070 ก็ถูกเครมว่าสามารถรันเกมปรับสุดเปิด Ray Tracing ที่ความละเอียด 2K ในราคาสบายกระเป๋า ในขณะที่ ตระกูล GTX1000 และ RTX2000 หลายตัวยังค่อนข้างเหนื่อยและมีค่าตัวที่(เคย)แรงมาก่อน

ถ้าจะซื้อเพราะ Ray Tracing อยากให้อ่านก่อน จริงๆ Nvidia ชูโรงเรื่อง Ray Tracing ตั้งแต่ตระกูล RTX2000 แล้วนะครับ แต่ก็มีเกมออกมาให้เห็นบ้างแต่ส่วนตัวผมคิดว่ายังไม่ว้าวเท่าไหร่ นอกจากมีออกมาไม่เยอะ มันก็ยังไม่มีทุกประเภททุกแพลทฟอร์ม อย่างไรก็ตามหากเป็นคนเล่นเกมทุกเกม เสพภาพทุกภาพ ก็อาจจะคุ้มครับ แต่ถ้าซื้อมาหวังว่าจะเป็นยุคทองของตลาดเกม Ray Tracing คงยังไม่ใช่เร็วๆนี้ แต่คิดว่าเป็นการเริ่มต้นของ Ray Tracing แบบจริงๆจังๆแล้วครับ จากข่าวของสื่อนอก Nvidia ส่ง Partner ไปบริษัทเกมหลายบริษัทเพื่อจะทำให้ Ray Tracing เป็นมาตราฐานของเกมใน Gen นี้ นับว่าเป็นการเริ่มต้นแบบจริงจัง จาก RTX2000 ที่เสมือนกับปล่อยมาลองยาว่า ไอ้ Ray tracing เนี่ยจะมีคนสนใจแค่ไหน ผลตอบรับที่ค่อนข้างดี นอกจากจะแทบล้มคู่แข่งได้แล้วยังมีหลายคนสนใจเรื่องนี้ RTX3000 จึงเป็นการเริ่มต้นแบบจริงจังเสียทีครับ

เทคโนโลยีที่ถูกอัพเกรดใน RTX รุ่นนี้นอกจาก RT core รุ่นที่ 2 และ Tensor Core รุ่นที่ 3 แล้วนอกนั้นแอดคิดว่าเป็นอะไรที่ยังค่อนข้างเกินตัวเรา หากเป็นคนธรรมดา ซื้อมาขายไป อัพเกรดรุ่นปกติ ไม่ได้ใช้ทำงานสร้างรายได้ เทคโนโลยีที่อัพเกรดเพิ่มมาคือ PCIe 4.0  >>PCIe 4.0 vs 3.0 ต่างกันอย่างไร << ที่รองรับแค่ทาง AMD เท่านั้น และทางฝั่ง Intel ยังต้องรอถึง Gen ต่อไป (ที่จริงมีแล้วแต่ยังกั๊กอยู่) และรองรับ HDMI 2.1 ที่มีการนำสัญญาณได้เร็วกว่ารุ่นเก่า 2 เท่าตัว ทำให้เล่นเกมขนาด 8K และ 4K ได้แรงยิ่งขึ้น (แต่ใครบ้างล่ะจะเล่นเกม 8K หรือ 4K มีสัดส่วนมากแค่ไหน) ต้องเรียกได้ว่ายังค่อนข้างเฉพาะกลุ่มและเกินตัวไปหน่อยสำหรับบางคน อาจจะโยกย้ายไปอัพเกรดส่วนอื่นจะมีประโยชน์กว่า รวมถึง Nvidia ยังตัดการเชื่อมต่อแบบ Multi GPU ออกไปเรียบร้อยแล้ว เพราะไม่มีความจำเป็นต้องต่อการ์ดจอมากๆ เพื่อได้ความแรงที่มากกว่าเดิมไม่เท่าไหร่ สายเท่ห์อดเลย อิอิ 

โดยรวมแล้ว RTX 3000 เปิดตัวได้อย่างดีและน่าสนใจมากๆ สำหรับผู้บริโภคอย่างเราๆที่เห็นถึงการแข่งขันกันในตลาด ทำให้เราได้ใช้ของดีและของถูก โดยกำหนดการวางขายคือ 17 กันยายน และน่าจะมีรุ่น 3060 ออกมาอย่างแน่นอน ส่วนอนาคตของ GTX Turing อย่าง 16xx ทั้งหลายยังไม่มีข่าวคราวจาก Official ออกมา แต่แอดก็หวังรอ RTX3050 อยู่นะการ์ดเล็กๆกินไฟน้อยๆ เปิด Ray tracing ได้แบบเบาๆ ระดับ Full HD น่าสนใจและมีความเป็นไปได้อย่างสูงเลยครับถ้ารุ่นพี่เปิดตัวมาแรงขนาดนี้! หากมีข่าวจะกำมาเขียนในเว็บให้ไวเลย หากนักอ่านทุกท่านมีความคิดเห็น คอมเม้นข้างล่างได้เลย หากชอบอ่านอย่าลืมกดถูกใจกดแชร์เพจ >> Facebook << และช่อง >> Youtube << เพื่อรับข่าวสารได้เร็วฉับไว กิจกรรมแจกของก็มีขอให้รอไว้เลยย