รีวิว Keycron K10 Mechanical Keyboard Wireless รุ่นใหม่ล่าสุด แบบ Full size 104 Keys Hot Swap ได้ดั่งใจ

สามารถฟังบทความแทนการอ่านได้แล้วนะ! คลุมดำ ข้อความที่ต้องการฟัง เว็บไซต์ก็จะช่วยอ่านให้อัตโนมัติ! หากต้องการหยุดอ่านให้กดปุ่ม Stop
และอย่าลืมกดปุ่ม Allow เพื่อเปิดการฟังเสียงก่อนด้วย!

กลับมาพบกับ GaGangTech รีวิวอีกครั้ง ช่วงนี้ขยันหาของมารีวิวเหลือเกิน แต่เป็นของที่เสียเงินซื้อเองนะ! ไม่ได้มีสปอนเซอร์ใดๆ (ร้องไห้แปป)

พอดี Keyboard Gaming ตัวเก่งของแอดเพิ่งลาโลกไปจากความซุกซน (ไม่ได้พังเพราะตัวมันเองนะ) ต้องบอกว่ามันทนมากๆ ไอ้เจ้า Mechanical Keyboard เนี่ย ถ้าแอดไม่ซน มันก็คงไม่มีวันพัง (อายุประมาณ 4 ปีได้) จึงต้องการหา Keyboard ตัวตายตัวแทน ซึ่งการหาใหม่ในครั้งนี้มันไม่ง่ายเลย เพราะสเปคคีย์บอร์ดของแอดนั้น ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว (เป็นคนเรื่องมาก)

จนกระทั่ง ได้เจอกับเจ้า Keycron K10 Mechanical Keyboard Wireless ตัวนี้นี่แหละ คิดอยู่หลายตลบ จึงตัดสินใจเอามันมาแล้วกัน! 

Keyboard ในอุดมคติของแอดคืออะไร?

คีย์บอร์ดที่จะมาใหม่นี้นั้น จะต้องมีคุณสมบัติที่ดีกว่ารุ่นเก่า (แหงล่ะ) แต่ไม่ได้ดีกว่าแบบนิดเดียวนะ มันจะต้องตอบโจทย์ทุกอย่าง มาดูกันว่าแอดลิส คุณสมบัติที่แอดต้องการไว้อย่างไรบ้าง 

  • คีย์บอร์ดจะต้องเป็น Mechanical Keyboard
  • คีย์บอร์ดต้องใช้ Cherry Switch
  • คีย์บอร์ดต้องรองรับการ Hot Swap
  • คีย์บอร์ดต้องมี Numpad
  • คีย์บอร์ดจะต้องไร้สาย (Wireless)
  • ต้องรองรับทั้ง Windows และ Mac
  • คีย์บอร์ดจะต้องมีไฟ RGB ตรงตาม พรบ คอม

แน่นอนว่า สเปคขนาดนี้ มันจะมีที่ไหนในตลาด แอดพูดจริงๆนะ เราหาคีย์บอร์ดที่ครบครันแบบนี้ไม่ได้เลย จนแอดได้เจอตัวนี้ แอดก็คิดอยู่นานเหมือนกัน จนในที่สุดก็เลือกมันมา เดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่า ว่า ทำไมคีย์บอร์ด Keycron K10 Mechanical Keyboard Wireless ตัวนี้ ถึงถูกใจแอด

1. Keycron K10 Wireless Mechanical Keyboard UnBOX

ก่อนที่เราจะพูดทีละข้อจากลิสด้านบน ต้องบอกเลยว่า Keycron เขาไม่ได้มีแค่รุ่นเดียว เขามีคีย์บอร์ดหลายรุ่นให้เลือกสรร ทั้ง K4 K6 K8 จนถึง K10

ขอแกะกล่องให้ดูก่อน กล่องของ Keycron รุ่นนี้ก็สวยงามเหมือนกับรุ่นอื่นๆ โดยหลังกล่องก็จะเขียนบอกคุณสมบัติต่างๆเอาไว้อย่างครบถ้วน

ภายในกล่องก็จะอัดแน่นไปด้วยใบแสดงคำแนะนำต่างๆ และห่อหุ้มคีย์บอร์ดมาอย่างดี

พร้อมคำแนะนำสำหรับการเปลี่ยน Switch โดยให้ดู Pin ว่าห้ามมีการหักหรืองอ ก่อนการติดตั้ง  ตรงนี้เดี๋ยวพูดในหัวข้อถัดไป

โดยทั้งคู่มือและอุปกรณ์ทั้งหมดที่เขาแถมมาให้เราก็จัดว่าค่อนข้างเพียงพอต่อการใช้งานดีมาก ประกอบไปด้วย

1. คู่มือต่างๆ 3 ชิ้น

2. Keycap สำหรับเปลี่ยนในคีย์บอร์ด 6 ชิ้น

3. สายชาร์จและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เป็นแบบ USB-C

4. ที่หนีบคีย์แคป และ ที่ดึงสวิตซ์

5. พลาสติกปิดหน้าคีย์บอร์ด กันฝุ่นเวลาไม่ใช้งาน (อันนี้ดีมาก น้อยแบรนด์ที่จะแถมอันนี้)

โดยหน้าตาของ Keycron K10 รุ่นนี้ก็จัดว่าออกไปในลักษณะแบบ Minimal มาก ซึ่งรุ่นนี้มีให้เลือก 2 สีด้วยกัน สีที่แอดสั่งซื้อมาคือสี Light Grey และอีกสีคือ สี Dark Grey ซึ่งทั้งสองสีจะอยู่บนคีย์แคป

โดย Light Grey สีแคปส่วนมากจะเป็นสี เทาตัดดำ ซึ่งตรงข้ามกับ Dark Grey ที่สีเทาส่วนมากจะเป็นสีดำตัดเทา นั่นเอง ซึ่งก็จัดว่าสวยงามแบบ Minimal ตั้งดูไว้ที่ทีก็ไม่เบื่อเลย

mechanical keyboard wireless

โดยคีย์แคปใน Keycron K10 จะใช้เป็นแคปแบบ ABS Double Shot ซึ่งมีผิวสัมผัสที่มันเงา ต่างจาก PBT ที่จะมีผิวด้านสาก และการประกบแบบ Doubleshoot คือการเลเซอร์สกรีนตัวอักษรบนเนื้อคีย์แคป (ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ) ทำให้แคปตัวนี้ มีไฟลอดออกมาได้อย่างสวยงาม เพราะไม่ได้เป็นงานแปะลายอักษรด้วยแผ่นสติ้กเกอร์นั่นเอง

สิ่งที่แอดชอบอีกอย่างหนึ่งก็คือ บอดี้ของเขาทำจากโลหะจริงๆ ซึ่งทาง ค่ายเคลมว่าเป็น อะลุมิเนียนเกรดอากาศยานเลยทีเดียว มีความแข็งแรง และ มีความเบากว่าโละหะทั่วไป

ซึ่งโลหะนี้เป็นโลหะจริงๆ เวลาโดนแอร์แล้วจะเย็นเลย มีผิวสากๆ เล็กน้อย มีการเคลือบสีออกโทนน้ำเงินเข้มสวยงาม

ส่วนน้ำหนัก คีย์บอร์ดตัวนี้ หนักประมาณ 1.85 กิโลกรัม เท่าที่แอดจับดู ก็ถือว่าหนักเมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดธรรมดา แต่ถือพอๆกันเมื่อเทียบกับ Mechanical Keyboard ที่เป็นบอดี้พลาสติก รุ่นอื่นๆครับ

ในส่วนของปุ่ม Function ต่างๆก็มีมาอย่างครบถ้วน โดยรวมแล้วการออกแบบไม่ใช่แบบวาบหวิว แต่เป็นเรียบง่าย คลาสสิก และเข้ากันได้กับทุกๆ การจัดวาง ซึ่งก็ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว

2. Keyboard Switch Type

โจทย์แรก สอง และสามของแอดก็คือ Keyboard ต้องเป็นแบบ Mechanical Switch เท่านั้น ไม่ต้องการแบบ Semi Mechanical หรือแบบอื่นใด

และคีย์บอร์ด Keycron K10 ก็เป็นคีย์บอร์ด Mechanical แท้ๆ ที่ไม่ได้มีส่วนผสมของยางเลย ซึ่งก็ถือว่าผ่านเกณฑ์ในข้อที่ 1 แต่สิ่งที่ทำให้สะดุดนั่นก็คือ คีย์บอร์ดรุ่นนี้ ใช้ Switch ของ “Gateron Switch” โดยมาในรุ่นของ “Brown Switch” ที่เป็นแบบ Tactile Switch

Cherry Brown Switch (ภาพซ้าย) Gateron Brown Switch (ภาพขวา)

ซึ่งถ้าพูดกันตามตรง Gateron Switch เป็น Switch ของประเทศจีน ที่ทำคล้ายคลึงกับ Cherry Switch ของประเทศเยอรมัน ซึ่งข้อดีของ Gateron Switch คือมีสเปคที่คล้ายกับ Cherry Switch อย่างมากเรียกได้ว่ามีความคล้ายคลึงกับ Cherry Switch ราวกับฝาแฝดเลยทีเดียว ในราคาที่ถูกกว่า

ซึ่ง Keycron K10 ก็มีให้เลือกถึง 3 Switch 3 แบบ

  • Blue Switch  (Tactile)
  • Red Switch (Linear)
  • Brown Switch (Tactile)

ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าแต่ละ Switch แตกต่างกันอย่างไร กดอ่านลิงค์นี้เลย

และคีย์บอร์ดตัวเก่าของแอดนั้นใช้ Switch ของ Cherry Switch เป็นแบบ Blue และ Brown Switch เป็นหลัก จึงทำให้เกิดคำถามว่า เอ๊ะมันจะดีเหมือน Cherry รึเปล่า?

Cherry Brown Switch (ภาพซ้าย) Gateron Brown Switch (ภาพขวา)

เมื่อเทียบกันแบบตัวต่อตัวแล้ว Cherry Switch จะมีวัสดุพลาสติกที่จับดูแล้วมีความแข็งแรงกว่า Gateron Switch อยู่หน่อยๆ

แต่จากที่ลองสัมผัสดูพบว่า Gateron Switch นั้นก็ไม่ได้แย่เลย เพราะทาง Keycron เขาได้ทำการ Lube Switch มาเรียบร้อยแล้ว การ Lube Switch คือการหล่อลื่นแกน Switch ให้ไม่มีความฝืดเคืองเวลาเรากดลงไป ซึ่งจากการที่ลองพิมพ์นั้นคล้าย Brown ของทาง Cherry มากๆ และก็ใช้งานได้ดีเลย

เหลือเพียงอย่างเดียวที่ยังบอกไม่ได้นั่นก็คือความคงทน เพราะ Cherry Switch รองรับการกดถึง 100 ล้านครั้ง แต่ Gateron นั้นจะได้เพียง 50 ล้านครั้ง ซึ่งต้องลองใช้งานดูระยะยาว ว่าจะเป็นอย่างไร

3. Hot Swap Function คือไม้เด็ด!

เครื่องมือดึง Switch ที่แถมมาให้มีประโยชน์มากๆ

เพราะ Keycron เขารู้ และ แอดก็รู้ตัว ว่าเรามันเป็นคนมากเรื่อง จึงทำการใส่ไม้เด็ดลงใน Keycron K10 รุ่นนี้ คือฟังก์ชั่นการ Hot Swap คีย์บอร์ดมาให้ด้วย!

Mechanical Keyboard Hot Swap คือ คือ Keyboard ที่มีแผงวงจรที่รองรับ ความสามารถในการถอดเปลี่ยน Switch ต่างๆ ได้ด้วยตนเอง แบบง่ายๆ โดยที่เราไม่ต้องรื้อแผงวงจร แล้วบัดกรี Switch ลงไปแบบยุ่งยาก ซึ่งการรื้อแผงวงจรและบัดกรีเองนั้น หากเราไม่มีฝีมือมากพอ ก็มีสิทธิ์ที่จะทำให้แผงวงจรคีย์บอร์ดนั้น เสียหายได้เลย ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุที่แอดทำคีย์บอร์ดตัวเก่าพังนั่นเอง

ไม่ต้องมีทักษะช่าง ก็ดึงเปลี่ยนได้เลย

ซึ่งหากเรามี Switch อื่นๆ ที่มีสเปคตรงตามที่ เมนบอร์ดรองรับ นั่นคือ เป็น Switch ที่คล้ายกับ Cherry Switch และมี 3 Pin ทองแดง ก็จะสามารถถอดเปลี่ยน Switch ได้ตามใจชอบ

ซึ่งไอ้ ฟังก์ชั่น Hot Swap นี่ไม่ได้มีทุกคีย์บอร์ดนะ แล้วไม่ได้หากันง่ายๆด้วย ซึ่งคีย์บอร์ดที่ไม่มีฟังก์ชั่นนี้ ก็จะต้องเสี่ยงรื้อแผงวงจร และเสี่ยงที่ประกันจะหมดด้วย

จึงทำให้แอดต้องหา  Keyboard ที่รองรับ Hot Swap เท่านั้น เพราะแอดไม่ได้ซีเรียสเรื่อง Switch ที่เขาติดตั้งให้มา เพราะแอดมี Cherry Switch อยู่แล้ว Keycron K10 จึงตอบโจทย์มากๆ เรื่องนี้เลย

ซึ่งหากใครอยากดู วิธีเปลี่ยน Switch ใน Keycron K10 สามารถอ่านได้ที่ลิงค์นี้เลย

4. Mechanical Keyboard Wireless

ลืมสายไปซะ แล้วแค่กดเชื่อมต่อมันแค่นั้น!

นี่คือสิ่งที่แอดอยากจะป่าวประกาศให้ทุกๆคน ในปี 2021 ย่างเข้า 2020 นี้!

เพราะเทรนด์ของอุปกรณ์ไร้สาย (Wireless) นั้นกำลังมาแรงเลยทีเดียว ต้องบอกก่อนว่า อุปกรณ์ไร้สายนั้นพยายามที่จะมาแทนที่การมีสายตั้งแต่เมื่อ 7 ปีก่อนแล้ว (ตั้งแต่ลุงเข้ามา) แต่เพิ่งจะมายอดนิยมเอาตอนนี้ (ลุงเองก็ไม่ออกสักที)

ซึ่งผู้นำเทรนด์นั่นก็คือ Apple เจ้าเก่า ที่ทะลึ่งตัดพอร์ตหูฟังออกจาก iPhone 7 เป็นครั้งแรก และเป็นที่ฮือฮาและโดนวิพากส์วิจารณ์มากที่สุดในโลกตอนนั้น จนตอนนี้ เทรนด์ไร้สายได้ยอดนิยมขึ้นจริงๆ มีอุปกรณ์ไร้สายที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายของคุณในโลกใบนี้มากมายกว่าที่คุณคิด

ซึ่งการที่คีย์บอร์ด Keycron K10 นั้นเป็น Mechanical Keyboard Wireless ซึ่งก็จัดว่าถูกใจแอดมาก เพราะ Mechanical Keyboard ที่เป็น Wireless ในท้องตลาดนั้น ไม่ได้มีตัวเลือกมากมายนัก 

ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อแบบ Wireless ด้วยเทคโนโลยี Bluetooth 5.1 ที่มี Latency ต่ำทำให้การใช้ลื่นไหล ไม่ได้มีอาการสะดุดแต่อย่างใด อีกทั้งยังกินพลังงานน้อยเพราะเป็นเทคโนโลยีแทบจะล่าสุดเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจะไม่มีอาการสะดุดหรือ Laggy ขณะที่ใช้อย่างแน่นอน

แต่ถ้าหากซีเรียสที่จะใช้งานจริงๆ ก็สามารถต่อแบบ มีสายด้วย USB-C ที่แถมมาและใช้งานแบบเสียบสายได้ แต่บอกไว้ก่อนเลย ว่า มีสายหรือไม่มีสาย นั้นแทบไม่ต่างเลย (และคอมเราต้องรองรับ BT 5.1 ด้วยนะ)

พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C , ปุ่มปรับเปลี่ยนระบบ , ปุ่มปรับโหมด มีสาย หรือ ไร้สาย

ข้อดีของการใช้งานแบบไร้สายนั้นเยอะแยะเต็มไปหมด หนึ่งในสิ่งที่แอดชอบคือ โต๊ะคอมของแอดจะไม่รกอีกต่อไป เพราะในสมัยนี้แล้วทุกอุปกรณ์แต่ละอย่างของแอดนั้นไร้สายหมด

  • เมนบอร์ดคอมพิวเตอร์ของแอด มาพร้อมกับ WiFi 6 และ BT 5.2
  • โน๊ตบุคส์และสมาร์ทโฟนของแอด ก็มีการเชื่อมต่อแบบ “ไร้สาย”
  • เมาส์เกมมิ่งของแอด ก็เป็นแบบ “ไร้สาย”
  • Keycron K10 ตัวนี้รองรับ BT 5.1 แบบ “ไร้สาย”
  • เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ “ไร้สาย ” ด้วย WiFi 6
  • หูฟังและลำโพงแบบ “ไร้สาย” ผ่าน BT
  • Joy Stick ของ Xbox ก็รองรับ BT แบบ “ไร้สาย”
  • สมาร์ทโฟนของแอด ก็ชาร์จแบบ “ไร้สาย”

เรียกได้ว่า โต๊ะของแอดนั้นมีความคลีนสุดๆ แทบจะไม่เห็นสายไฟเลยแม้แต่น้อย อยากใช้งานตัวไหนก็เปิด เชื่อมต่อได้รวดเร็ว อยากเลิกใช้งาน ก็ปิดได้ อยากหยิบอุปกรณ์ตัวไหนไปใช้งานนอกสถานที่ ก็สามารถหยิบไปได้เลย ไม่ต้องมานั่งรื้อสาย

และคีย์บอร์ดตัวนี้ก็เหมาะสำหรับพกไปไหนมาไหน เพราะ มาพร้อมกับ Battery ความจุ 4000 mAh และใช้งานแบบเปิดไฟ RGB ได้ถึง 240 ชั่วโมงเลยทีเดียว

5. Keyboard แบบ Full size 104 Key

โจทย์นี้ยาก คีย์บอร์ด Mechanical Wireless ที่มีทรงแบบ Full Size 104 Key นั้นมันไม่ได้หากันง่ายๆเลย เพราะ Mechanical Keyboard Wireless ส่วนใหญ่นั้น จุดประสงค์คือเพื่อการพกพา ส่วนมากจะโดนตัดแถว Numpad ไป ซึ่งเป็นอะไรที่แอดไม่ถนัดเป็นอย่างมาก เพราะแอดต้องทำคอนเท้นทุกวัน หากไม่มี NumPad มันจะพิมพ์ลำบากมาก

และ Layout ของ คีย์บอร์ดเองก็เป็นเรื่องสำคัญ หากมี Layout ไม่ปกติ ก็จะทำให้พิมพ์ผิดๆถูกๆได้

ซึ่ง Layout Keyboard นั้นมีหลายแบบ ทั้งแบบ 96 Key เอย บ้าง แบบ TKL บ้าง ซึ่งไม่ใช่แบบที่แอด ต้องการ และคีย์บอร์ดตัวนี้ ก็เป็นแบบที่แอดต้องการ นั่นก็คือ Keyboard 104 Key ที่มี Layout แบบธรรมดาๆ เนี่ยแหละ

ซึ่งหากใครที่ต้องการถนัดใช้งาน Layout แบบอื่นๆ สามารถอ่านตรงนี้ได้ 

คีย์บอร์ดมี Layout แบบไหนบ้างอ่านเลย

6. รองรับหลากหลายระบบปฏิบัติการ

การที่เราจะพก คีย์บอร์ดไปทำงาน มันก็จะต้องทำงานได้กับทุกเครื่อง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดบอดของหลายๆ คีย์บอร์ดรุ่นอื่นๆ แต่ไม่ใช่กับ Keycron K10 เพราะเขารองรับถึง 3 ระบบปฏิบัติการเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็น Windows , Mac OSX หรือแม้แต่ ระบบ Android ก็สามารถใช้ได้ผ่านระบบ BT 5.1 นี้ โดยเราสามารถปรับโหมดการใช้งานผ่านปุ่มด้านข้างได้ ซึ่งค่อนข้างสะดวกเลย

ปุ่มแบบ Mac OSX

ปุ่มแบบ Windows (อันนี้แอดสลับกันนะ ระหว่าง ปุ่ม Windows กับ ALT เพราะแอดลืมสลับโหมด)

และใครที่กลัวว่าตัวเองจะหลงลืมกดปุ่มผิด ไม่ต้องห่วง เพราะเขาได้เตรียม Keycap สำหรับสับเปลี่ยนเมื่อเราใช้กับเครื่องที่แตกต่างกันไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งฝั่ง Windows และ Mac โดยที่ไม่ทำให้เรางง ถือว่าเป็นจุดสุดยอดของการใช้งานเลยทีเดียว

7. ไฟ ARGB Backlight ถูกต้องตาม พรบ คอม!

เรื่องที่โคตรรรร สำคัญในยุคนี้ สำหรับเรื่องของไฟ RGB ฮ่าๆๆ แน่นอนว่าคีย์บอร์ดตัวนี้ รองรับไฟ Backlight ที่เป็นแบบ 4 Zone ARGB ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว ยังมีประโยชน์มากในเรื่องของเวลาที่เราพกไปใช้งานในตอนกลางคืน จะทำให้เรามองเห็นตัวอักษรชัดเจน ไม่พิมพ์ผิดๆถูกๆ

ปุ่มแบบ Mac OSX

ถึงแม้ว่าจะไม่มีซอฟแวร์ที่ใช้ปรับแต่งผ่านคอมพิวเตอร์ แต่ก็สามารถกดปุ่ม ที่เป็นสัญลักษณ์รูป ไฟ เพื่อเปลี่ยนโหมดไฟ ซึ่งมีหลากหลายโหมดให้เลือกเล่นได้อย่างมากมาย

  • ปุ่ม สัญลักษณ์รูปไฟ – เปลี่ยนโหมดไฟ RGB
  • FN + ปุ่มรูปไฟ – ปิด/เปิด ไฟ RGB
  • FN + F5 / F6 – ปรับความสว่างของไฟ RGB

ปุ่มแบบ Windows (อันนี้แอดสลับกันนะ ระหว่าง ปุ่ม Windows กับ ALT เพราะแอดลืมสลับโหมด)

ซึ่งข้อสังเกตุอย่างนึงเรื่องไฟ Backlight ของ Keycron K10 นั่นก็คือ มีความสว่างน้อยไปหน่อย เมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดอีกรุ่น ที่มีความสว่างจะดูมากกว่าเล็กน้อย แต่ตรงนี้ก็เข้าใจได้ เพราะเป็นแบบ ไร้สาย ต้องเซฟเรื่องแบตเตอรี่นิดนึง

สรุป!

โดยรวมแล้วแอด ค่อนข้างพึงพอใจกับ Keycron K10 Mechanical Keyboard Wireless ตัวนี้เป็นอย่างมาก จากการปรับแต่ง Keyboard ตัวนี้เรียบร้อย และลองใช้งานเป็นเวลา 3 วันดูแล้ว ก็มีความสุขมาก หากเพื่อนๆชอบรีวิวนี้ล่ะก็ สามารถให้กำลังใจได้ด้วยการ

 กดไลค์ GagangTech และติดตามช่อง Youtube GagangTech

และสามารถดูวิธีการปรับแต่งคีย์บอร์ดตัวนี้ได้ที่ลิงค์นี้ และถ้าเพื่อนๆต้องการซื้อคีย์บอร์ดตัวนี้ล่ะก็ สนนราคาอยู่ที่ 4,390 บาทถ้วน ซึ่งสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ในหน้าเว็บไซต์ของ Keycron หรือสั่งซื้อผ่านลิงค์ร้านค้าใน Shopee ได้ ต้องบอกเลยว่า ของมีน้อยแล้วหมดไวมากๆเลยล่ะ!

ลิงค์สั่งซื้อ Keycron K10 Mechanical Keyboard Wireless


ลิงค์สั่งซื้อ Keycron K10 ลิงค์ 1 ร้านในประเทศไทย

ลิงค์สั่งซื้อ Keycron K10 ลิงค์ 2  สั่งตรงจากร้านต่างประเทศ

 

– แล้วไว้เจอกันใหม่ ในบทความหน้า สวัสดีครับ –

ติดตามพวกเราได้ที่

Website

Facebook

Youtube

Facebook Comments Box

One thought on “รีวิว Keycron K10 Mechanical Keyboard Wireless รุ่นใหม่ล่าสุด แบบ Full size 104 Keys Hot Swap ได้ดั่งใจ

  1. Pingback: high pr dofollow High PR web 2.0 sites

Comments are closed.

This site uses cookies to offer you a better browsing experience. By browsing this website, you agree to our use of cookies.